วันเสาร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2554

อาชญากรเขย่าวงการสิ่งแวดล้อม เมื่อคาร์บอนเครดิตถูกขโมย

carbon credit
ภาพ : www.responsible-investor.com
               เมื่อไม่กี่เดือนก่อน มีข่าวการขโมยคาร์บอนเครดิตมูลค่ากว่าเจ็ดล้านยูโรจากตลาดออนไลน์ ไม่รู้ว่าจะสะเทือนขวัญหรือขำดีกับเหตุการณ์โจรกรรมระดับข้ามชาติหนนี้คาร์บอนเครดิตก็คือการซื้อขายสิทธิการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตามข้อตกลงในพิธีสารเกียวโต ซึ่งใบอนุญาตปล่อยก๊าซและคาร์บอนเครดิตนี้สามารถซื้อขายกันได้ เพื่อเป็นแรงจูงใจทางการเงินในการลดการปล่อยก๊าซ โดยกลุ่มประเทศพัฒนาจะสามารถปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ตามที่ได้รับอนุญาต ถ้าหากต้องการปล่อยมากกว่านั้น จะต้องซื้อคาร์บอนเครดิตจากผู้อื่น
            เหตุเกิดเมื่อบริษัทแบล็คสโตนโกลบอลเวนเจรอ์ส เทรดเดอร์ด้านใบอนุญาตปล่อยก๊าซคาร์บอนในสาธารณรัฐเช็ก ออกมาประกาศว่า มีผู้แฮ็กเข้าไปในระบบลงทะเบียนและขโมยคาร์บอนเครดิตออกไป 475,000 ตัน มีมูลค่าสูงถึงเจ็ดล้านยูโร (ประมาณ 300 ล้านบาท)
             จากข้อมูลของพอยท์คาร์บอน ผู้ให้บริการข่าวตลาดพลังงานและคาร์บอน ระบุว่า ภายในไม่กี่ชั่วโมง คาร์บอนเครดิตที่ถูกขโมยไปก็ถูกโอนย้ายผ่านบัญชีที่จดทะเบียนในโปแลนด์ เอสโตเนียและลิกเทนท์สไตน์ ซึ่งคณะกรรมาธิการยุโรปที่ดูแลตลาดคาร์บอน กล่าวว่า การลงมือครั้งนี้มีการวางแผนอย่างดี เจ้าหน้าที่บางบริษัทหรือสำนักงานขึ้นทะเบียนอาจมีส่วนเกี่ยวข้องก็เป็นได้
           ผู้เกี่ยวข้องพยายามแก้ปัญหาด้วยการระงับการซื้อขายในตลาดออนไลน์จาก 27 ชาตินานถึงหนึ่งสัปดาห์ และทำให้ประเทศสมาชิกอียู 14 ประเทศ (จากทั้งหมด 27 ประเทศ) ออกมาเรียกร้องว่าธนาคารควรแก้ไขปรับปรุงระบบความปลอดภัยออนไลน์ใหม่
แม้กลุ่มอียูถือเป็นระบบการซื้อขายคาร์บอนเครดิตนานาชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่กลับเจอปัญหาเรื่องความปลอดภัยซ้ำแล้วซ้ำเล่า เมื่อปีที่แล้ว มีอีเมล์หลายฉบับส่งมาหลอกขอรหัสผ่านจากเจ้าของบัญชี คล้ายกับการ “หลอกลวงทางอินเทอร์เน็ต”เช่น หลอกขอข้อมูลบัตรเครดิต สร้างความเดือดร้อนให้หลายประเทศ
          ยังไม่นับรวมกรณีเมื่อปลายปีที่ผ่านมา คาร์บอนเครดิต 1.6 ล้านตันถูกขโมยจากบัญชีบริษัทผู้ผลิตซีเมนต์ชื่อ โฮลซิม จากระบบทะเบียนแห่งชาติของโรมาเนีย และเมื่อเดือนที่ผ่านมาก็มีคนพยายามแฮ็กข้อมูลในระบบของประเทศออสเตรียอีกด้วย เหตุการณ์ทั้งหลายสะท้อนถึงระบบรักษาความปลอดภัยออนไลน์ที่ยังหละหลวม ทำให้เหล่าแฮ็กเกอร์เข้าถึงข้อมูลสำคัญได้
          ทั้งนี้ ตำรวจสหภาพยุโรปประมาณมูลค่าความเสียหายอาชญากรรมคาร์บอนเครดิตในปี 2008 และ 2009 ว่ามีมูลค่าถึงห้าล้านยูโร หลายฝ่ายให้ความเห็นว่า นักขโมยพยายามจะบั่นทอนความเชื่อมั่นของตลาดคาร์บอนในยุโรป ซึ่งจะส่งผลกระทบในวงกว้าง เพราะตลาดของยุโรปจะเป็นต้นแบบของตลาดคาร์บอนในระดับโลก ทั้งอเมริกา ออสเตรเลีย และเอเชีย อย่างจีนและญี่ปุ่น

แหล่งข้อมูล:http://www.greenworld.or.th/greenworld/foreign/1253

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น